ย๊อกยาการ์ต้า - โซโล - บันดุง 7 วัน **Special program

SKU : 7d-indonesia

Price

35,000.00 ฿

Quantity to buy
Total 35,000.00 ฿

Do not have enough stock

Out of stock

ย๊อกยาการ์ต้า - โซโล - บันดุง 7 วัน

บริการนี้ทำทัวร์เฉพาะคณะของท่าน เดินทางเอง

ไปพบไกด์ท้องถิ่น พูดภาษาอังกฤษ ที่สนามบินเดนปาซาร์

2 ท่านเดินทางได้

วันแรก กรุงเทพฯ - ย็อกยาการ์ต้า  

04.00 น.พร้อมกันที่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารขาออก เคาน์เตอร์ สายการบินการูด้า 

 06.35 น.ออกเดินทางสู่ กรุงจาการ์ต้า เมืองหลวงของประเทศอินโดนีเซีย โดย โดยสายการบินการูด้า เที่ยวบินที่ GA 865

*** บริการด้านบน และ ค่าตั๋วเครื่องบิน ไม่รวมในค่าบริการ ***  

10.10 น.ถึงสนามบินจาการ์ต้า *** แวะเปลี่ยนเครื่องเพื่อเดินทางสู่ เมืองย็อกยาการ์ต้า ***

*** ทุกท่านต้องผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมือง ขาเข้า ที่นี่ ***  

12.10 น.ออกเดินทางสู่เมืองย็อกยาการ์ต้า (ย็อกย่า) โดยสายการบินการูด้า เที่ยวบินที่ GA 208

*** ค่าตั๋วเครื่องบิน ไม่รวมในค่าบริการ ***  

13.25 น.เดินทางถึงสนามบินเมืองย็อกยาการ์ต้า (ย็อกย่า) เมืองเอกอันดับสอง รองจากจาการ์ต้า เมืองแห่งประวัติศาสตร์และมรดกโลก หลังจาก รอรับกระเป๋า และสัมภาระเรียบร้อยแล้ว พบมัคคุเทศก์ท้องถิ่น รอต้อนรับ นำท่านเดินทางไปร้านอาหาร

รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร บริการท่านด้วยไก่ทอดซูฮาร์ตี้

ที่ขึ้นชื่อที่สุดของย็อกย่า  นำท่านชม วัดพราห์มบานัน หมู่วิหารของฮินดู สร้างเสร็จราวปี 856 เพื่อ ฉลองชัยชนะของระไก ปีกาตัน (ทายาทผู้สืบทอดราชวงศ์สันชัย) ลานตรงกลางของโบราณสถานแห่งนี้มีสิ่งปลูกสร้างแปดหลัง หลังใหญ่ สุดสามหลัง เรียงจากเหนือจรดใต้คือ จันดี ศิวะ มหาเทวา สูง 47 เมตร องค์ใหญ่สุดเพื่อถวายแด่พระศิวะ ขนาบข้างด้วยวิหารขนาดเล็กกว่า คือ จันดี วิษณุ(ทางเหนือ) และ จันดี พรหมมา (ทางใต้) ฝั่งตรงข้ามตะวันออกคือวิหารเล็ก ๆ ที่ครั้งหนึ่งเคยบรรจุ พาหนะทรง ของเทพเจ้าแต่ละองค์ เช่นวัวของพระศิวะ (นนที) หงส์ของพระพรหม (ฮัมสา) และครุฑของพระวิษณุ ปัจจุบันเหลือแต่ วัว นนที เท่านั้น ใกล้ประตูทางเหนือและใต้ของพื้นที่ส่วนกลางซึ่งมีกำแพงล้อมรอบ คือวิหารราชสำนักสองหลัง มีลักษณะเหมือนกัน สูงราว 16 เมตร จันดี ศิวะ มหาเทวาองค์ใหญ่สุดเพื่อถวายแด่พระศิวะ มีอีกชื่อหนึ่งคือ รอรอ จองกรัง (หญิงสาวร่างอรชร) หมายถึงหมู่วิหารทั้งหมด ตำนานท้องถิ่นกล่าวว่า รอรอ จองกรังเป็นเจ้าหญิงที่ถูกสาปโดยคู่หมายที่ไม่ได้รักกัน นางขอให้ฝ่ายชายสร้างวัดให้เสร็จในหนึ่งคืน และทำลายผลงานที่เกือบเสร็จสิ้นของเขาด้วยการตำข้าวด้วยครกกระเดื่องซึ่งเป็นสัญญาณของเช้าวันใหม่ ก่อนเวลาเริ่มวันใหม่ เพื่อให้ฝ่ายชายคิดว่า ตนทำไม่สำเร็จ แต่เมื่อรู้ว่าถูกหลอก ฝ่ายชายโกรธมากและสาปให้นางเป็นหิน ตามตำนานหญิงสาวยังคงอยู่ที่นี่ในหอเหนือของวิหารในรูปสลักของนางทุรคาชายาของพระศิวะ ในหออีกสามหลังมีรูปสลักของ อกัสตียะ “พระอาจารย์ของเทพเจ้า”หันหน้าไปทางใต้ รูปสลักพระคเณศ โอรสแห่งพระศิวะมีเศียรเป็นช้าง หันไปทางตะวันตก และพระศิวะสูง 3 เมตร (หอกลาง หันทางตะวันออก)  ค่ำรับประทานอาหารค่ำ ที่ห้องอาหาร

นำท่านชม การแสดงรามายาณะ หรือรามเกียรติ์ ฉบับอินโดนีเซีย ที่เวทีการแสดง ข้างวัดพราห์มบานัน

 นำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก เช็คอินแล้ว เชิญท่านพักผ่อนตามอัธยาศัย   (ค้างที่ย็อกยาการ์ต้า)  


วันที่สองย็อกยาการ์ต้า – สุระการ์ตะ (โซโล)

07.00 น.รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม  

08.00 น.นำท่านเดินทางสู่ เมือง สุระการ์ตะ (โซโล) เมืองคู่ของเมืองย็อกย่า และยังเป็นเมืองที่ได้เคยเป็นที่รับเสด็จ ล้นเกล้ารัชกาล ที่ 5 และ รัชกาลที่ 7 เมื่อครั้งเสด็จเยือนชวาอีกด้วย ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมงจากเมืองย็อกย่า

นำท่านชม พระราชวังกาสุนานัน (Kasunanan Palace) พระราชวังแห่ง ซูซูฮูนัน (Susuhunan) หรือกษัตริย์แห่ง สุระการ์ตา ซึ่งสร้างในสมัย สุลต่าน ปากูบูโวโน ที่ 2 (Sultan Pakubuwono II) เมื่อปี ค.ศ. 1745 และในสมัย ของสุลต่าน ปากูบูโวโน ที่ 10 (Sultan Pakubuwono X) ซึ่งมีพระชนม์ในช่วงระหว่าง 29 พฤศจิกายน ค.ศ. 1866 - 20 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1939 ที่วังแห่งนี้ ได้เคยเป็นที่รับเสด็จ ล้นเกล้ารัชกาล ที่ 5 และ รัชกาลที่ 7 เมื่อครั้งเสด็จเยือนชวาอีกด้วย

จากนั้น นำท่านชม พระราชวังมังกูเนการัม (Mangkunegarum Palace) ซึ่งสร้างเมื่อปี ค.ศ. 1757 โดย ระเด่น มาส ซาอิด ซึ่งต่อมา ได้ขึ้นเป็น ผู้ครอง นครมาตะรัมตะวันออก (Eastern Mataram) พระนามว่า มังกูเนการ่า ที่ 1 ภายใน มีอาคารโถง โล่ง ซึ่งใช้ในการว่าราชการสมัยก่อน ปัจจุบัน ใช้เป็นที่ฝึกสอนนางรำประจำราชสำนัก วังนี้ ยังคงใช้เป็นที่พำนักของราชวงศ์มังกูเนการ่าอยู่จนปัจจุบันนี้

***การเข้าชมวัง กรุณาแต่งกายสุภาพ ห้ามใส่เสื้อแขนกุด ห้ามกางเกงขาสั้น และห้ามใส่รองเท้าแตะ***  

รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร  

บ่าย นำชม พิพิธภัณฑ์ผ้าบาติคดานาร์ ฮาดิ (Banar Hadi Batik Museum) ซึ่งมีคอลเลคชั่นที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของอินโดนีเซียและของโลกไม่ต่ำกว่า 10,000 ชิ้น รวบรวมผ้าบาติกจากทั่วโลก ไม่ว่า ชวา บาหลี มาเลย์ จีน อินเดีย ซึ่งแต่ละประเทศจะมีภูมิปัญญาท้องถิ่นและเทคนิคการทำแตกต่างกันออกไปนำท่านชม และเลือกซื้อผ้าบาติกเพื่อเป็นของที่ระลึก ที่ ตึก PGS (PUSAT GROSIR SOLO) ซึ่งเป็นศูนย์ขายส่งผ้าบาติก ณ ใจกลางเมืองโซโล อันเป็นแหล่งรวมของผ้าบาติกหลายรูปแบบมากมาย ทั้งบาติกพื้นเมืองโซโล และบาติกจากแหล่งอื่นๆ ในประเทศ ซึ่งเมืองโซโลนี้ ถือว่าเป็นศูนย์กลางของบาติกของอินโดนีเซีย ทุกๆปี จะมีงานแฟชั่นโชว์สำหรับบาติก และงาน BATIK CARNIVAL ประจำปีอีกด้วย

พอสมควรแก่เวลา นำท่านเดินทางกลับเมืองย็อกย่า  ค่ำนำท่านรับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร (อาหารจีน)

นำท่านเดินทางกลับที่พัก เชิญท่านพักผ่อนตามอัธยาศัย (ค้างที่ย็อกยาการ์ต้า)


วันที่สามย็อกยาการ์ต้า – ถ้ำปินดุล – หาดลัมบอร์  

07.00 น.รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม 

 08.00 น.เดินทางสู่ ถ้ำปินดุล หรือ กัวปินดุล (Goa Pindul) นำท่านนั่งห่วงยางล่องลอดผ่านถ้ำปินดุล ซึ่งเป็นถ้ำหินปูนขนาดใหญ่ที่มีแม่น้ำใต้ดินไหลผ่าน ชมความงานของหินงอกหินย้อยที่เป็นเกล็ดแวววาวระยิบระยับอยู่ในความมืด น้ำใสเป็นสีเขียวมรกตที่เกิดจากตาน้ำพุ เกดง ตูจูห์ ที่ไม่เคยเหือดแห้ง  

12.00 น.รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารพื้นเมือง 

 13.00 น.เดินทางสู่ หาดงลัมเบอร์ (Nglambor Beach) ชายหาดที่มีชื่อเสียงในเรื่องการดำน้ำ Snorkeling ชมปะการัง ที่ถูกยกย่องว่าเป็นแหล่งดำน้ำตื้นชมปะการังและปลาสวยงามที่สมบูรณ์หลากสีสันราวกับอยู่ในอควาเรียม

นำท่านเดินทางกลับสู่ ที่พัก ให้ท่านได้ทำธุระส่วนตัว และเปลี่ยนชุด  

19.00 น.รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร 

นำท่านเดินทางกลับที่พัก เชิญท่านพักผ่อนตามอัธยาศัย(ค้างที่ย็อกยาการ์ต้า) 


วันที่สี่ ย็อกยาการ์ตา – โบโรพุทโธ – ภูเขาไฟเมอราปี 

 07.00 น.รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม 

 08.00 น.ออกเดินทางสู่ โบโรพุทโธ (Borobudur) (เดินทางประมาณ 30-45 นาที) นำท่านเข้าชม มหาเจดีย์โบโรพุทโธ (Borobudur) สถูปทางพุทธศาสนาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในอุษาคเนย์ ศูนย์รวมจิตใจของชาวพุทธที่สร้างขึ้นในราวศตวรรธที่ 8 อายุกว่า 1,200 ปี โดยราชวงศ์ไศเลนทร์เพื่อถ่ายทอดความเป็นศูนย์กลางของมณฑลจักรวาล ภพภูมิทั้ง 3 และ สภาวะลำดับชั้นของพระพุทธเจ้าต่าง ๆ ตามความเชื่อของพุทธศาสนามหายาน มหาเจดีย์บุโรพุทโธ วัดพุทธที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก ออกแบบและสร้างขึ้นในแบบของตัวเอง ได้รับการขึ้นทะเบียน เป็นมรดกโลก โดย UNESCO ในปี พ.ศ. 2534 บุโรพุทโธ สร้างขึ้นในราวพุทธศตวรรษที่ 13-14 โดยราชวงศ์ไศเลนทรา (Sailendras) ซึ่งปกครองตอนใต้ของชวากลาง และนับถือศาสนาพุทธนิกายมหายาน ใช้หินจำนวนกว่า 1 ล้านก้อนหรือ ประมาณ 55,000 ลูกบาศก์เมตร ด้วยจำนวนแรงงานมหาศาลเป็นระยะเวลากว่า 30 ปี แต่ก็ถูกทิ้งให้จมอยู่ใต้เถ้าถ่านของภูเขาไฟ Merapi หลังจากการใช้งานไม่ถึง 200 ปี เมื่ออาณาจักรต้องอพยพผู้คนไปอยู่ทางชวาตะวันออก บุโรพุทโธถูกค้นพบอีกครั้งในพุทธศตวรรษที่ 18 และการบูรณะก็ได้เริ่มขึ้นเมื่อต้นพุทธศตวรรษที่ 20 ช่วงที่ชาวดัทช์ ปกครองชวา ในปี 2528 ได้ถูกวางระเบิดโดยกลุ่มผู้ต่อต้านซูฮาร์โต้ จนได้รับความเสียหายอย่างหนัก และได้รับการบูรณะใหญ่อีกครั้ง หินแต่ละก้อนจะถูกเรียง ซ้อนกันขึ้นไปเป็นชั้นๆ คล้ายกับปิรามิดตัน มีทั้งหมด 9 ชั้น ชั้น 1-6 เป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส ส่วนชั้น 7-9 เป็นรูปวงกลม ที่เรียงรายไปด้วยสถูป โดยมียอดเป็นสถูปขนาดใหญ่ (ชั้นที่ 10) เป็นสถาปัตยกรรมที่ผสมผสานระหว่างปิรามิดของเอเชียกลาง (Ziggurat) กับสถูปของอินเดีย มีขนาดกว้าง 118 เมตร ยาว 118 เมตร สูง 42 เมตร หรือ กว้าง 123 เมตร ยาว 123 เมตร สูง 34.5 เมตร หลังจากการบูรณะครั้งหลังสุด พุทธสถานแห่งนี้ ไม่มีทางเข้าไปภายใน ไม่มีพระบรม สารีริกธาตุ หรือ พระพุทธรูปบรรจุอยู่ในสถูปองค์ใหญ่ที่ด้านบนสุด และไม่มีสถานที่สำหรับพระสงฆ์ใช้จำวัด

จากนั้น นำท่านชม จันทิปาวน (Candi Pawon) เจดีย์ทรงปราสาทลักษณะคล้ายพระบรมธาตุไชยาที่เป็นหลักฐานความรุ่งเรืองของราชวงศ์ไศเลนทร์แห่งอาณาจักรศรีวิชัย แล้วนำท่านชม จันทิเมนดุต (Candi Mendut) ซึ่งเป็นปราสาทจันทิ รุ่นแรก ๆ ในพุทธศาสนา โดยภายในประดิษฐานพระพุทธรูปปางแสดงธรรม ประทับนั่งหย่อนพระบาทที่งดงาม ขนาบข้างโดยพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวรปัทมปาณี และพระโพธิสัตว์วัชรปาณิ เชื่อว่าในสมัยโบราณ วัดนี้ เป็นจุดเริ่มต้น สำหรับ พุทธศาสนิกชน ที่จะเดินไปแสวงบุญยังบุโรพุทโธ  

12.00 น. รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารพื้นเมือง

นำท่านเดินทางสู่ ภูเขาไฟเมอราปี เปลี่ยนพาหนะเป็นรถจี๊ปขับเคลื่อนสี่ล้อ ชมภูเขาไฟเมอราปี ซึ่งมีความสูงถึง 2,914 เมตร เป็น 1 ในภูเขาไฟ 219 ลูก ของอินโดนีเซียที่ยังคุกรุ่นอยู่ โดยประทุขึ้นครั้งสุดท้าย เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2553 และยังทิ้งร่องรอยความเสียหาย แก่หมู่บ้าน เรือกสวนไร่นา บริเวณเชิงเชาอันอุดมสมบูรณ์ เป็นหลักฐานแสดงถึงความยิ่งใหญ่ของธรรมชาติ ภูเขาไฟลูกนี้ได้นามมาจากคำว่า “เมรุ” อันหมายถึงภูเขาพระสุเมรุ ศูนย์กลางของจักรวาล และคำว่า “อาปี” ที่แปลว่าไฟ

จากนั้นเดินทางกลับเข้าสู่ เมืองย็อกยาการ์ตา อิสระช้อปปิ้งที่ ถนนมาลิโอโบโร่ (Malioboro) แหล่งช้อปปิ้งที่คลาคล่ำไปด้วยสินค้าของที่ระลึกงานหัตถกรรมผ้าบาติก ตึกแถวแบบชิโนโปรตุกีสคล้ายกับที่ภูเก็ต ซึ่งบริเวณทางเดินหน้าร้านจะสามารถเดินทะลุกันได้ตลอดทั้งแนว บริเวณนี้ก็ยังมีรถม้าไว้คอยบริการนักท่องเที่ยวนั่งรถเล่นชมเมืองอีกด้วย  

19.00 น.รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร   

นำท่านเดินทางกลับที่พัก เชิญท่านพักผ่อนตามอัธยาศัย(ค้างที่ย็อกยาการ์ต้า) 


วันที่ห้าย็อกยาการ์ต้า – บันดุง  

เช้ารับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม 

 10.00 น.หลังจากเช็คเอ้าท์ นำคณะเดินทางสู่ สนามบินเมืองย็อกยาการ์ต้า  12.50 น.

ออกเดินทางสู่ เมืองบันดุง (Bandung) โดยสายการบิน วิงแอร์ เที่ยวบินที่ IW 1811 (12.50 – 14.00)

*** ค่าตั๋วเครื่องบิน ไม่รวมในค่าบริการ ***

 บริการอาหารกลางวันแบบกล่อง  

14.00 น.เดินทางถึง เมืองบันดุง เมืองเอกของจังหวัดชวาตะวันตก และเป็นเมืองใหญ่อันดับ 4 ของประเทศอินโดนีเซีย ตั้งอยู่ที่ระดับความสูง 768 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล เป็นเมืองที่เต็มไปด้วยวัฒนธรรมดั้งเดิมของชวาตะวันตกและชนพื้นเมืองซุนดา มีทัศนียภาพที่งดงามด้วยไร่ชา สวนยาง และอากาศที่เย็นสบายทั้งปี หลังจาก รอรับกระเป๋า และสัมภาระเรียบร้อยแล้ว พบมัคคุเทศก์ท้องถิ่น รอต้อนรับคณะ นำท่านชมตัวเมืองบันดุง ผ่านชมส่วนราชการต่างๆ Gedung Sate หรือที่ว่าการรัฐของจังหวัดชวาตะวันตก ซึ่งเป็นแลนด์มาร์กของบันดุง แล้วนำท่านสู่ย่านตลาดส่งออก แหล่งผลิตและส่งออกสินค้า อาทิเช่น รองเท้า เสื้อผ้า เกมส์ แผ่น ดีวีดี และสินค้าอื่นๆอีกมากมาย ให้ท่านได้เลือกซื้อสินค้าราคาขายส่ง อาทิ กระเป๋า รองเท้า เสื้อผ้า ฯลฯ และช้อปปิ้งกันอย่างจุใจ 

 19.00 น.รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร   

นำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก เช็คอินแล้ว เชิญท่านพักผ่อนตามอัธยาศัย(ค้างที่บันดุง)


วันที่หกบันดุง – ทะเลสาบคาวาห์ติปูห์ – บันดุง  

07.00 น.รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม  

08.00 น.นำท่านเดินทางสู่ ทะเลสาบคาวาห์ ปูติห์ (Kawah Putih) อันเกิดจากปล่องภูเขาไฟที่ดับแล้วเก็บกักน้ำฝนปะปนกับแร่ธาตุและแร่กำมะถันที่เกิดจากภูเขาไฟ กลายเป็นทะเลสาบบนยอดเขาสูง 2,430 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล โดยปรากฎเป็นดินสีขาว และสีสันของน้ำในทะเลสาบที่กลายเป็นสีฟ้า สีเขียว หรือแม้กระทั่งสีเหลืองงามแปลกตา ขึ้นอยู่กับความเข้มข้นของกำมะถันในบริเวณนั้น  

12.00 น.บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารพื้นเมือง 

 13.00 น.วัเดินทางกลับสู่ เมืองบันดุง ชมตัวเมืองบันดุง ซึ่งก่อตั้งขึ้นโดยชาวดัชท์ตั้งแต่คริสตศตวรรธที่ 18 จากแหล่งปลูกชา จนมาเป็นเมืองพักตากอากาศ และเมืองสำคัญที่สุดในชวาตะวันตก ที่ยังทิ้งร่อยรอยอาคารเก่าแก่ย้อนกลับไปในยุคอาณานิคมดัชท์หลายแห่ง จากนั้น ให้ท่านมีโอกาสช้อปปิ้งของฝากของที่ระลึก สินค้าศิลปหัตถกรรมของชาวชุนดาในแถบชวาตะวันตก  

19.00 น.รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร   นำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก เชิญท่านพักผ่อนตามอัธยาศัย(ค้างที่บันดุง) 


วันที่เจ็ดบันดุง – จาการ์ต้า – กรุงเทพฯ  

เช้ารับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม  

09.00 น.นำท่านออกเดินทางสู่ เมืองจาการ์ต้า เมืองหลวงของประเทศอินโดนีเซีย ใช้เวลาเดินทาง ประมาณ 3 ชั่วโมง

ถึงจาการ์ต้า นั่งรถชมรอบๆตัวเมืองจากาต้าร์ ผ่านชม TUGU MONAS, NATIONAL MONUMENT TOWER สัญลักษณ์ ของ อินโดนีเซีย ตั้งอยู่ที่ MERDEKA SQUARE สร้างขึ้นในปีค.ศ. 1961 และเสร็จสมบูรณ์ ในปี ค.ศ. 1975 เพื่อระลึกถึงความพยายามที่จะให้ได้มา ซึ่งเอกราชของประเทศ ในปี ค.ศ. 1945

จากนั้น ผ่านชมที่พักประธานาธิบดี และ ส่วนราชการอื่นๆ  

12.00 น.บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร/strong>

นำท่านเดินทางไปสนามบินจาการ์ต้า เพื่อเดินทางกลับกรุงเทพฯ 

 16.40 น.ออกเดินทางสู่ กรุงเทพฯ โดย สายการบินการูด้า เที่ยวบินที่ GA 864  

20.10 น.เดินทางกลับถึง ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพ  


 * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * 

 หมายเหตุ: กำหนดการเดินทาง และ เวลา อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ตามความจำเป็น และ เหมาะสม ตามตารางของสายการบินที่ใช้เดินทาง

 อัตราค่าบริการ : ราคา เฉพาะแลนด์ สุทธิ ต่อท่าน พักห้องคู่ หรือห้องละ 3 ท่าน (กรณีไม่ต้องการจ่ายเพิ่มเพื่อพักห้องเดี่ยว)   

*** ค่าตั๋วเครื่องบินตลอดเส้นทาง ไม่รวมในค่าบริการ ***


 อัตรานี้รวม

- ค่าโรงแรมที่พัก 3 คืน ( ห้องละ 2-3 ท่าน )

- ค่าอาหาร ตามที่ระบุตามรายการ

- ค่ารถรับส่งสนามบิน และท่องเที่ยวตามสถานที่ท่องเที่ยวที่ระบุตามรายการ

- ค่ารถขนกระเป๋า ระหว่างโรงแรม และสนามบิน พร้อมเจ้าหน้าที่ดูแล

- ค่าเข้าชมสถานที่ต่าง ๆ ตามรายการ

- น้ำดื่ม ท่านละ 2 ขวด ต่อวัน  (ระหว่างทัวร์)

- มัคคุเทศก์ท้องถิ่น (พูดภาษาอังกฤษ) ดูแลระหว่างท่องเที่ยว


อัตรานี้ไม่รวม

- ค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปบาหลี  , ค่าตั๋วเครื่องบิน บาหลี – ลาบวน บาโจ

- ค่าใช้จ่ายส่วนตัว เช่น ค่าโทรศัพท์ ค่าซักผ้า รีดผ้า ค่าอาหาร และเครื่องดื่มสั่งพิเศษ 

- ค่าธรรมเนียมเดินทางแจ้งเข้า-แจ้งออกของคนต่างด้าว ,ค่าทิปมัคคุเทศก์ท้องถิ่น และคนขับรถ

- ค่าประกันอุบัติเหตุการเดินทาง

- ค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% และ หัก ณ ที่จ่าย 3% (กรณีต้องการใบกำกับภาษี)


*** ตั๋วเครื่องบินภายในประเทศ ราคาพิเศษ ของสายการบินวิงแอร์ ***

Jogjakarta - Bandung IW 1811 12.50 – 14.00

ราคาโปรโมชั่นพิเศษ รวม Tax + YQ แล้ว เริ่มต้น ท่านละ 4500 บาท โดยประมาณ

*** รวมภาษีสนามบินภายในประเทศ แล้ว ***


***ท่านที่ถือพาสปอร์ตไทย เดินทางท่องเที่ยวในอินโดนีเซีย ภายใน 30 วัน ไม่ต้องขอวีซ่า***

สำหรับพาสปอร์ตอื่นๆ ต้องทำการขอวีซ่า ซึ่งสามารถขอได้ที่สนามบิน และท่าเรือนานาชาติเกือบทุกแห่งในอินโดนีเซีย โดยเสียค่าบริการดังนี้   10 USD สำหรับการท่องเที่ยว ไม่เกิน 7 วัน //  25 USD สำหรับการท่องเที่ยว 8-30 วัน

หมายเหตุ: สำหรับพาสปอร์ตเอเชียหลายชาติ ได้รับการยกเว้น ไม่ต้องขอวีซ่า

 DOWNLOAD PROGRAM

Visitors: 43,941